



เราเห็นคนเข้ายิมมานับไม่ถ้วน คนกลุ่มหนึ่งมุ่งไปที่ลู่วิ่งทันที อีกกลุ่มตรงไปที่โซนเวทเทรนนิ่ง
พวกเขามองราวกับว่าสองสิ่งนี้เป็นศัตรูกัน แต่ในมุมมองของเรา นี่คือความเข้าใจผิดที่อันตรายที่สุด การ ปั้นหุ่น ฟิตหัวใจ ไม่ใช่การเลือก แต่คือการผสานมันเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด
คนส่วนใหญ่เริ่มต้นเพราะอยาก หุ่นดี อยากมีซิกซ์แพ็ก, แขนกระชับ แต่มักลืมไปว่าสิ่งที่ขับเคลื่อนหุ่นนั้นคือหัวใจ
คุณไม่สามารถมีรถแข่งที่สวยงามแต่เครื่องยนต์พังได้ ร่างกายก็เช่นกัน
การมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง แต่หัวใจที่อ่อนแอ คือความไม่สมดุลอย่างรุนแรง มันคือร่างกายที่ สวยแต่รูป แต่ไม่พร้อมใช้งานจริง
การปั้นหุ่น หรือการ สร้างกล้ามเนื้อ ไม่ใช่แค่การทำให้ตัวใหญ่ มันคือการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อไร้ไขมัน (Lean Body Mass) ซึ่งทำหน้าที่เหมือน เตาเผาพลังงาน ประจำตัว
กล้ามเนื้อที่มากขึ้น หมายถึงระบบเผาผลาญที่ดีขึ้นแม้ยามพักผ่อน มันคือสิ่งที่ช่วยให้คุณ ออกกำลังกาย ลดไขมัน ได้ง่ายขึ้นในระยะยาว
สุขภาพหัวใจ หรือสมรรถภาพคาร์ดิโอ คือประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนโลหิต มันคือความสามารถของหัวใจในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย
ในทางเทคนิคเรามักวัดสิ่งนี้ด้วยค่า VO2 Max (อัตราการใช้ออกซิเจนสูงสุด) ยิ่งค่านี้สูง ร่างกายยิ่งฟิต และทนทานต่อความเหนื่อยล้าได้ดีกว่า
นี่ไม่ใช่แค่ความเชื่อ งานวิจัยใน Iowa State University of Science and Technology ชี้ว่าการฝึกเวทเทรนนิ่งสม่ำเสมอสามารถลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้ 30-70% แม้ในคนที่ไม่ได้ทำคาร์ดิโอเลยก็ตาม (13 พฤศจิกายน 2018) [1]
ในทางกลับกัน American Heart Association ยืนยันว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอระดับปานกลาง 150 นาทีต่อสัปดาห์ คือมาตรฐานในการลดความดันโลหิต และเพิ่มความทนทานของหัวใจ ประเด็นคือ ร่างกายต้องการทั้งคู่ (19 มกราคม 2024) [2]

นี่คือคำถามคลาสสิก เราควรวิ่งก่อนยก หรือยกก่อนวิ่ง?
จากประสบการณ์ของผู้เขียน คำตอบขึ้นอยู่กับเป้าหมายหลักของคุณในวันนั้น ถ้าคุณอยากแข็งแกร่งให้ยกเวทก่อน คุณต้องการพลังงาน (Glycogen) ทั้งหมดในการยก แต่ถ้าวันนั้นคือวันเน้นความทนทาน คาร์ดิโอคือสิ่งที่คุณควรทำก่อน
คนที่มุ่งมั่น ออกกำลังกาย ลดไขมัน มักจะวิ่งบนลู่วิ่งเป็นชั่วโมงๆ
แต่จุดนี้ต้องเน้นย้ำว่า คาร์ดิโอที่นานเกินไป จะกระตุ้นฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) ซึ่งนำไปสู่การสลายกล้ามเนื้อ (Catabolism) คุณอาจจะผอมลง แต่ก็ ย้วย ลงด้วย นี่คือการปั้นหุ่นที่ล้มเหลว
มันไม่ใช่การเลือก แต่มันคือ การจัดลำดับ วัฒนธรรมฟิตเนสยุคใหม่ไม่ได้มองสองสิ่งนี้แยกกัน เราเรียกมันว่า Concurrent Training (การฝึกร่วม)
ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญไม่ว่าคุณจะเลือกสาย CrossFit vs Weight Training หรือการออกกำลังกายแบบผสมผสานอื่นๆ มันคือการยอมรับว่าร่างกายมนุษย์ถูกออกแบบมาให้ทำได้ทั้งสองอย่าง
แล้ว HIIT (High-Intensity Interval Training) ล่ะ? มันคือทางลัดจริงหรือ? การศึกษาพบว่า HIIT และ LISS (คาร์ดิโอแบบเบาๆ นานๆ) ให้ผลในการลดไขมันโดยรวมใกล้เคียงกัน เมื่อใช้พลังงานเท่ากัน (6 เมษายน 2021) [3]
แต่ HIIT ใช้เวลาน้อยกว่ามาก และสร้าง Afterburn Effect(EPOC) ที่เผาผลาญพลังงานต่อหลังจบ
อย่างไรก็ตาม ประโยชน์สูงสุดของการออกกำลังกายอาจไม่ใช่แค่หุ่น งานวิจัยจาก The Lancet Psychiatry ที่วิเคราะห์คนกว่า 1.2 ล้านคนในสหรัฐฯ พบว่าคนที่ออกกำลังกาย (ไม่ว่าจะเวทหรือคาร์ดิโอ) มีสุขภาพจิตที่ดีกว่าอย่างชัดเจน นี่คือคำตอบของคำถามที่ว่า เล่นกีฬา แล้วได้อะไร มันคือสุขภาพจิตที่ดีขึ้น (1 กันยายน 2018) [4]
สุดท้ายแล้วการ ปั้นหุ่น ไม่ใช่การวิ่งแข่ง 100 เมตร มันคือการวิ่งมาราธอนที่ต้องวางแผน ร่างกายที่สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ใช่ร่างกายที่ลีนที่สุด หรือ ใหญ่ที่สุด แต่คือร่างกายที่ สมดุลที่สุด มันคือร่างกายที่มีทั้งเครื่องยนต์(หัวใจ) และโครงสร้าง(กล้ามเนื้อ) ที่พร้อมใช้งาน
เลิกมองกระจกแล้วถามว่าเมื่อไหร่จะผอม แต่จงถามว่าวันนี้หัวใจเราแข็งแรงขึ้นหรือยัง และ วันนี้กล้ามเนื้อเราพร้อมใช้งานแค่ไหน การปั้นหุ่นคือการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนเป็น “คุณภาพชีวิต” ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนตาชั่ง

