คลายปมทุกข์ ด้วยการ แอคทีฟ ปลดล็อกชีวิตด้วย “กีฬาบำบัด”

คลายปมทุกข์ ด้วยการ แอคทีฟ

คลายปมทุกข์ ด้วยการ แอคทีฟ ให้กีฬา เยียวยาจิตใจ ปลดล็อกชีวิต หลุดพ้นจากความเศร้า ด้วยพลังงานแห่งเหงื่อ เพราะกีฬา คือ ยาวิเศษ ยาต้าน ซึมเศร้า ที่ไม่ต้องกลืน จิตใจแจ่มใส สุขภาพดี ทั้งกายและใจ ฮอร์โมนสมดุล คงความอ่อนเยาว์ และเพิ่มความมั่นใจ ได้มิตรภาพใหม่ๆ เพราะกีฬา

  • เล่นกีฬา เล่นฟุตบอล คลายเครียด คลายทุกข์ใจ
  • สมดุลของสารเคมีในสมองสำคัญอย่างไร
  • คลายทุกข์ คลายเศร้า ด้วยฮอร์โมนแห่งความสุข

เมื่อ “กีฬา” คืออาวุธคลายทุกข์ ด้วยพลังแห่งเหงื่อ

กีฬา การเคลื่อนไหว การออกกำลัง การฝึกสมาธิ สามารถช่วยให้คนเราอยู่ในสภาวะสมดุล ฮอร์โมนคงที่ สุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี ความคิดเฉียบคม สามารถแก้ไขปมชีวิต ปมความทุกข์ ก้าวข้ามความเครียดได้ ด้วยพลังแห่ง ‘กีฬา’ ถือว่าเป็น ‘อาวุธเด็ด’ สำหรับ ‘ดีดพลังด้านลบ’ ให้กระเด็น

ในการศึกษาในปี 2017 พบว่า การออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น การเดิน มีประโยชน์ต่อสุขภาพจิตมากกว่าการออกกำลังกายแบบหนัก นักวิจัยพันธุศาสตร์จิตเวช และนักวิจัยพัฒนาระบบประสาท Massachusetts General Hospital ได้พบหลักฐานบ่งชี้ การทำกิจกรรม การเล่นกีฬา มีผลต่อสุขภาพทางจิต ได้พิมพ์ในวารสาร JAMA Psychiatry (25 มกราคม 2019) [1]

กีฬาบำบัด 5 ประเภท คลายเครียด และสุขภาพดี

คลายเครียด คลายกังวล การเลือก “กีฬาบำบัด” สามารถเลือกเล่นกีฬาได้หลายๆ ประเภท ตามความเหมาะสม เช่น มวย กีฬาที่ต้องใช้แรง เพื่อระบายพลังงานที่รุนแรง หรือ โยคะ เป็นการฝึกลมหายใจ การเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล ช่วยลดความวิตกกังวล เลือกให้เหมาะสมกับตัวเอง ได้ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

วิธีบำบัดด้วยกีฬา หากต้องการคลายเครียด คลายทุกข์ แนะนำกีฬา 5 ประเภท ที่สามารถช่วยคนให้ หายเศร้า แก้เครียด มีความสุข และสุขภาพดี หลังศาลแห่งความสุขต่อมาได้เต็มที่ ได้แก่

  1. ไตรกีฬา คือ เป็นการผสมผสานกีฬา 3 อย่าง วิ่ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีประโยชน์ต่อจิตใจ ทำให้ระบบต่างๆ แข็งแรง ฝึกการทรงตัว ฝึกระบบหายใจ และกล้ามเนื้อส่วนบนล่าง รวมไปถึงระบบไขข้อ
  2. เต้นแอโรบิก การขยับร่างกายตามจังหวะเพลง บริหารกล้ามเนื้อ ช่วยได้ทั่วร่างกาย การเต้นส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้สนุกสนานไปกับจังหวะเพลง เสียงดนตรี ลดความเครียดได้
  3. กีฬาในร่ม คือ การเล่นกีฬาชนิดต่างๆ บาสเกตบอล เทนนิส แบดมินตัน ปิงปอง ช่วยในการคิดวิเคราะห์ วางแผนเป็นทีม พัฒนาสมอง สายตา ระบบหายใจ กล้ามเนื้อแข็งแรง
  4. ฟุตบอล เป็นการขยับร่างกายทุกส่วน วิ่ง เดิน กระโดด เตะ ใช้ศักยภาพร่างกาย พัฒนาสมอง เพิ่มความแข็งแกร่ง การทรงตัว และระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานดี
  5. กายบริหาร คือ การฝึกโยคะ การฝึกมวยจีน เป็นการขยับร่างกาย ที่ฝึกฝนจิตใจไปพร้อมๆกัน โดยการใช้สมาธิ และฝึกกล้ามเนื้อ ช่วยในการคลายเครียด และควบคุมจิตใจได้ดี

ที่มา: วิธีออกกำลังกายคลายเครียดแนะนำกีฬายอดฮิต 5 ประเภท แก้เครียดแถมได้สุขภาพดี (2025) [2]

เมื่อ “ลูกฟุตบอล” คลายปมทุกข์ ปลดปล่อยความเครียด

เมื่อคนเราเล่นกีฬา โดยเฉพาะ ‘ฟุตบอล’ จะช่วยเสริมสร้าง สุขภาพกาย และ สุขภาพจิต ทำให้หัวใจแข็งแรง ระบบไหลเวียนดี โฟกัสที่ลูกฟุตบอล ไม่คิดวนซ้ำ คลายกังวล งานวิจัยของ FIFA พูดถึงเรื่องการเล่นฟุตบอล มีประโยชน์ต่อ หัวใจ ปอด และระบบเผาผลาญ และยังสามารถเล่นเป็นทีม โดยระบบหัวใจทำงานเพิ่มขึ้น 70%

เมื่อเล่นฟุตบอล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกล้ามเนื้อ ป้องกันโรคที่อาจจะเกิดจากกล้ามเนื้อ และกระดูก กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ แข็งแรง ช่วยป้องกัน

  • โรคกระดูกพรุน เพราะการมีกล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่น มีผลดีต่อแคลเซียมในกระดูก
    โรคหัวใจ และสมองขาดเลือด เมื่อระบบไหลเวียนเลือดดี โอกาสเกิดเลือดตีบตันได้น้อย
  • โรคความดันโลหิตสูง การทำงานของหลอดเลือดแดงยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ลดแรงต้านต่อหัวใจ
  • โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเต้านม ซึ่งจากสถิติแล้ว มะเร็งจะพบในกลุ่มที่ออกกำลังกายน้อยกว่า
  • ป้องกันโรคซึมเศร้า การขยับร่างกาย การเล่นกีฬา ออกกำลังกาย ทำให้ฮอร์โมนสมดุล ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข ทำให้สมองปลอดโปร่ง
  • ป้องกันโรคอ้วน การเคลื่อนไหว การเล่นกีฬา การออกกำลังกาย สามารถช่วยลดไขมันส่วนเกิน

นอกจากการป้องกันแล้ว การเล่นกีฬาฟุตบอล ยังช่วยรักษาโรคได้อีกด้วย เช่น

  • โรคหอบหืด เมื่อออกกำลังกาย โรคหอบหืดมีอาการดีขึ้น
  • โรคเบาหวาน ออกกำลังกายช่วยเผาผลาญ ควบคุมระดับน้ำตาล และลดการดื้ออินซูลิน
  • โรคความดันโลหิตสูง เล่นกีฬา ทำให้หลอดเลือดแดงยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ความดันโลหิตลดลง
  • โรคถุงลมโป่งพอง การออกกำลังกาย ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น ระบบหายใจดี
  • โรคไขมันในเลือดสูง การเล่นกีฬา ทำให้เผาผลาญไขมันเลว LDL ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดไขมันในเลือดสูง

ที่มา: เล่นฟุตบอล สุขภาพดีฟิตไปอีกนาน (14 กันยายน 2024) [3]

และเมื่อการเล่นฟุตบอล ต้องใช้สมาธิจดจ่อ การทำงาน เป็นทีม และทำให้ ‘ลูกบอล’ สำคัญกว่า ‘ปัญหา’ หรือ ‘ความเครียด’ กีฬาทำให้ใจได้พัก ได้ระบายอารมณ์ และปลดปล่อยความเครียดที่สะสม แกะปมชีวิตในสนาม สามารถก้าวข้ามความรู้สึกทุกข์ใจใดๆ ได้อย่างเหลือเชื่อ

คลายปมทุกข์ ด้วยการ แอคทีฟ พลังแห่งการเคลื่อนไหว

คลายปมทุกข์ ด้วยการ แอคทีฟ

เมื่อร่างกายแจ้งเตือน เกิดสภาวะต่างๆ ทางพฤติกรรม ทั้งอารมณ์ การกิน การนอน มีการแปรปรวน สภาวะไม่สมดุล เกิดจากสารเคมีในสมอง คลายปมทุกข์ ด้วยการ แอคทีฟ เยียวยาด้วยพลังงานแห่งการเคลื่อนไหว กู้คืนความสมดุล บำบัดด้วยพลังงานแห่งความสุข กีฬา คือ ยาวิเศษ ส่งผลดีต่อกาย และจิตใจ

สารเคมีในสมอง ไม่สมดุล จะเกิดอะไรขึ้น?

สารเคมีในสมอง หรือ สารสื่อประสาท มีความสัมพันธ์กัน ระหว่างเซลล์ประสาท และการตอบสนอง ควบคุมการทำงานทั้งหมดในร่างกาย การควบคุมอารมณ์ การนอนหลับ ความสุข การผ่อนคลาย และการมีความสุข ถ้าหากว่าสารเคมีในสมองไม่สมดุล เกิดอะไรขึ้น ต่อร่างกาย และจิตใจ ดังนี้

  • สมาธิสั้น มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ นอนไม่หลับ
  • มีอาการเซื่องซึม ไม่มีความกระตือรือร้น ไม่ตื่นตัว หรือ มีความวิตกกังวล กระวนกระวาย และนอนไม่หลับ
  • อาจเกิดโรคจิตเภท ความคิดฟุ้งซ่าน โครงสร้าง กล้ามเนื้อกระตุก อาการสั่น
  • ควบคุมความคิดไม่ได้ สมองคิดฟุ้งซ่าน ขาดความยับยั้งชั่งใจ มีความวิตกกังวล
  • เกิดภาวะซึมเศร้า มีการย้ำคิดย้ำทำ ขาดความมั่นใจ อารมณ์แปรปรวน การทำร้ายตัวเอง ควบคุมอารมณ์ไม่ได้

ที่มา: อยากมีชีวิตดี “สารเคมีในสมองต้องสมดุล” (25 พฤศจิกายน 2024) [4]

สิ่งที่ทำให้สารเคมีไม่สมดุล เกิดขึ้นได้หลายๆ สาเหตุ สามารถจำแนกคร่าวๆ โดยเชื่อว่าเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม ลักษณะนิสัย บุคลิก ความเครียด สารเสพติด ฮอร์โมนแปรปรวน และอื่นๆ

คลายปมทุกข์ ต้านความเศร้า ด้วยฮอร์โมนแห่งความสุข

ความสุขสร้างได้ หากว่ารู้เท่าทันอารมณ์ สามารถเพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุขให้ตัวเองได้ ทำในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ โดยมีงานวิจัยที่เกี่ยวกับความสุขในชีวิต ศึกษามากว่า 75 ปี ของ Robert Waldinger ที่ได้นำเสนอผลงานวิจัยจาก มหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ทำให้คนสุขภาพดี มีความสุข และอายุยืนยาว

การสร้างความสุข ปรับการใช้ชีวิต ช่วยให้คลายปมทุกข์ ช่วยให้หายเศร้า ด้วยเคล็ดลับเพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุข ดังนี้

  • เล่นกีฬา ออกกำลังกาย: ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข ช่วยเพิ่มการตื่นตัว ลดความเศร้า ลดโอกาสเกิดโรคภัย ปรับระบบเผาผลาญ มีหุ่นดี สุขภาพดี มีความมั่นใจ
  • กิจกรรมที่มีความสุข: ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เดินช็อปปิ้ง กินของอร่อย กิจกรรมสร้างเสียงหัวเราะ ไปท่องเที่ยว หรือกิจกรรมผ่อนคลายต่างๆ เพื่อให้ช่วยกระตุ้นความสุข
  • รับแสงแดดอ่อนๆ: แสงแดดจะช่วยเพิ่มวิตามินดี และกระตุ้นฮอร์โมนที่ลดอาการซึมเศร้า เพิ่มภูมิต้านทาน ควรเป็นแสงแดดตอนเช้า ไม่เกิน 10:00 น. หรือตอนเย็น 17:00 น. เป็นต้นไป
  • กินช็อกโกแลต: ในช็อกโกแลตมีสารที่สำคัญ ช่วยบำรุงระบบไหลเวียนเลือด เสริมความแข็งแกร่งให้หลอดเลือด ปริมาณโกโก้สูง 70-85% กินบ้างในบางครั้ง จะส่งผลทำให้อารมณ์ดีขึ้น
  • เล่นกับสัตว์เลี้ยง: ผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง มักจะไม่มีความเครียดสะสม หรือมีน้อยมากๆ การเลี้ยง สุนัข แมว หรืออื่นๆ เพิ่มความสุขให้แก่ผู้เลี้ยงได้ และลดความเครียดสะสม และมีฮอร์โมนความรักและผูกพันกับสัตว์เลี้ยง
  • การสัมผัส: เป็นสัมผัสแห่งความรัก การกอด การจูบ คนที่เรารัก เป็นพฤติกรรมที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมาได้
  • การทำสมาธิ: การมีสมาธิ หรือการพักผ่อน หรือการนอนหลับสักครึ่งชั่วโมง สามารถลดความเครียดได้ ทำให้สดชื่น ปรับขึ้นสมอง ระดับฮอร์โมนอยู่ในระดับปกติ

ที่มา: 8 เคล็ดลับ สร้างฮอร์โมนความสุขให้ตัวเอง (11 มิถุนายน 2020) [5]

กีฬาบำบัด คลายปมทุกข์ ปลดล็อกชีวิต ให้มีแต่สุข

การบำบัดด้วยกีฬา ส่งผลดีหลายๆด้าน ทั้งทางด้านร่างกายที่แข็งแรง และทางด้านจิตใจ ต้านความเศร้า คลายปมทุกข์ ด้วยการ แอคทีฟ ขยับร่างกาย เล่นกีฬา ให้พลังแห่งเหงื่อ ช่วยผักพลังงานด้านลบให้กระเด็น เสริมสร้างความแข็งแรง สร้างเกราะป้องกัน ให้ร่างกาย และจิตใจ

การเล่นกีฬา การเตะบอล ช่วยให้หายเศร้าได้จริงไหม?

ในการเล่นกีฬา โดยเฉพาะ การเตะบอล ช่วยทำให้หายเศร้าได้จริง เพราะเมื่อเล่นกีฬา เราจะโฟกัสไปที่ ลูกฟุตบอล ไม่มีความคิดวนซ้ำ โฟกัสที่กีฬา และเมื่อเล่นกีฬา ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุข ทำให้หายเศร้า สมองปลอดโปร่ง ความคิดเฉียบคมขึ้น ดีทั้งด้านจิตใจ และร่างกาย

เล่นกีฬา ปรับสมดุลร่างกาย ฮอร์โมน และเคมีในสมอง

นิยามของ ‘ความสุข’ ของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป หากว่าเกิดความผิดปกติ ฮอร์โมน สมดุลร่างกาย เคมีในสมอง ย่อมส่งผลต่อสุขภาพจิต และสุขภาพกาย การรู้เท่าทันอารมณ์ การเล่นกีฬาเป็นประจำ ช่วยลดการเกิดโรคต่างๆ ร่างกายสามารถหลั่งสารแห่งความสุขได้เอง

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง